7 เคล็ดลับสำหรับการใช้ Email Marketing ในการสร้างแบรนด์
อีเมล (email) อาจดูไม่มีค่าสำหรับธุรกิจของคุณ นั่นอาจเป็นเพราะคุณมีผู้ติดตามจำนวนมากบน Facebook และ Twitter แต่รู้หรือไม่ จากการสำรวจพบว่า 90% ของทั้งหมด แทบไม่ได้ทำให้ธุรกิจเคลื่อนไหว มีเพียง 10% เท่านั้นที่ยังคงทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
เคล็ดลับ 7 ประการของการทำการตลาดด้วยอีเมลที่ทำให้เกิดความพึงพอใจ
1. แยกประเภทรายชื่ออีเมล (Email)
การแยกประเภทรายชื่ออีเมลจะช่วยให้คุณสามารถเตรียมเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มคนเหล่านั้น คุณอาจจะแยกรายชื่อจากความสนใจในการเข้าร่วมของแต่ะคน เช่น อีเมล (email) ที่เปิด ข้อมูลทั่วไป หรืออื่นๆ การแยกรายชื่ออีเมล (email) นี้จะช่วยให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง ทุกๆอีเมล (email) ที่เปิดอ่านมักจะสัมพันธ์กับชีวิตของเขาเหล่านั้น นั่นจะช่วยรักษาต้นทุน และยังช่วยให้ห่างจากการโดน SPAM อีกด้วย
2. ทดสอบเวลาในการส่ง
ด้วยความต่อเนื่องสำหรับบทความที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อส่งในช่วงวันและเวลาที่เหมาะสมในการส่งอีเมล (email) ทำให้ช่วงเวลาเหล่านั้นมีการส่งอีเมลจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริง ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันไปตามแบรนด์ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณถึงจำเป็นต้องทดสอบ ทดสอบ และทดสอบ อาทิเช่น ส่งอีเมล (email) ตอน 9 โมงเช้า แล้วลองสังเกตความถี่ในการเปิดอ่านอีเมล ส่งอีเมล (email)ตอนเที่ยงวันของวันอาทิตย์ และตอนเที่ยงคืนของของวันศุกร์ จากนั้นลองสังเกตอัตราการเปิดอ่านอีเมล (email) คุณจะสังเกตเห็นบางอย่างของรายชื่อที่มีการตอบสนองในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราจึงสามารถใช้ประโยชน์ จากสิ่งเหล่านี้ด้วยการส่งอีเมล (email) ไปในเวลาที่เหมาะสมของแต่ละกลุ่มรายชื่อ
3. ใช้ข้อความอีเมล
ข้อความอีเมล (email) อาจจะดูดีในอินบ็อคของคุณ แต่ลองพิจารณาสิ่งนี้ คนส่วนมากในกลุ่ม Subscribers จะใช้โปรแกรมอีเมลที่มักไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมรูปภาพใดๆ แล้วคุณจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อให้มั่นใจว่าข้อความของคุณดูดีแล้วล่ะ? มันค่อนข้างเสียเวลาเลยทีเดียว เพราะการทำงานที่ดีควรเป็นไปด้วยความรวดเร็ว อีกทั้งการเพิ่มและปรับแก้ไขรูปภาพด้วยตัวเอง ก็ยิ่งเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีก และสิ่งที่แย่ที่สุดคือ คุณมักเสียเวลาในการทำบางอย่างในสิ่งที่ผู้ติดตามเหล่านั้นอาจไม่เคยมองเห็นมันเลย
4. ให้ผู้ติดตามสามารถกำหนดค่าเองได้
หากคุณต้องการสิ่งที่ดีที่สุดในการทำงาน ลองให้ผู้ติดตามทำงาน ให้โอกาสพวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ ความถี่มากน้อยแค่ไหนที่ทำการติดต่อ ข้อมูลประเภทไหนที่อยากรับรู้ ดังนั้น ผู้ติดตามเหล่านั้นจะแยกประเภทตัวพวกเขาเองให้คุณ โดยคุณแทบจะไม่ต้องทำไร อีกทั้งเรายังได้ทราบถึงความต้องการจริงๆซึ่งสามารถนำไปพัฒนาต่อไปได้
5. เลือกทางแก้ที่ถูกต้อง
หลายธุรกิจจำนวนมากต้องจบลงเพราะเลือกใช้ลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์ผิดๆตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนที่จะเล่าว่าแต่ละฟีเจอร์ทำหน้าที่อะไรบ้าง ควรพิจารณาก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการ เช่น ก่อนที่จะไปช้อปปิ้ง ต้องลิสต์ก่อนว่าจะซื้ออะไรบ้าง อะไรที่สำคัญ อะไรที่ไม่สำคัญ ต้นทุนของคุณมีเท่าไร จากนั้น เมื่อคุณมองหาทางแก้ได้แล้ว วิธีการนั้นต้องพิจารณาภายใต้งบประมาณที่มี และอย่ากังวลในวิธีที่คุณไม่เคยใช้มาก่อน
6. ค่อยๆทำตามรายการที่เขียนไว้
การมีจำนวนผู้ติดตามจำนวนมากอาจจะดูเหมือนในอุดมคติ แต่มันไม่ใช่จำนวนผู้ติดตามทั้งหมดที่นับได้ จะนับเพียงผู้ติดตามที่ยังคงมีการใช้งานเท่านั้น ดังนั้น จึงควรมีการปรับแก้รายชื่ออีเมลอย่างต่อเนื่อง คุณอาจลองส่งอีเมล (email) ไปยังกลุ่มรายชื่อที่ยังไม่เปิดอีเมล (email) ของคุณในขณะนั้น ถ้าพวกเขาไม่ตอบกลับอีเมล (email) คุณจะทราบได้อย่างเป็นนัยว่าเขาจะถูกนำออกจากรายการของคุณ และไม่ต้องกังวลที่จะเอารายชื่อนั้นออกเพราะนั่นไม่ใช่กลุ่มรายชื่อที่คุณต้องการให้อยู่ในรายการของคุณอยู่แล้ว
7. ถามผู้ติดตามเหล่านั้นว่า พวกเขาต้องการอะไร
สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดแต่ก็ยังคงถูกมองข้ามไป อีเมล (email) แรกสำหรับผู้ติดตามรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาควรจะได้รับคือ เหตุผลอะไรที่ทำให้เค้าลงทะเบียนเข้ามาในรายการอีเมล (email) ของแบรนด์นี้ และคุณก็ควรจะทราบว่าจะแยกประเภทของผู้ติดตามอย่างไรบ้าง สิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงประสบการณ์ของแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ Email Marketing บนอุปกรณ์มือถือ