วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ Email Marketing ของคุณสำหรับผู้ให้บริการอีเมลที่แตกต่างกัน
วิธีการง่ายๆที่จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าอีเมลที่คุณสร้างขึ้นมาส่งเข้าไปยังอินบ็อคของผู้ติดตามคือ การสร้างรูปแบบตัวอักษรสำหรับทุกอีเมลของคุณ ผู้ให้บริการอีเมลส่วนใหญ่คาดว่า อีเมลที่น่าเชื่อถือจะต้องดูดีและสามารถแสดงผลได้ดีในทุกอีเมลไคลเอนต์ที่ผู้รับใช้บริการ ต่อไปนี้เป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ Email Marketing ของคุณสำหรับอีเมลไคลเอนต์ที่แตกต่างกัน
1. สร้างรูปแบบตัวอักษรสำหรับอีเมล (Email) ของคุณ
วิธีการง่ายๆที่จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าอีเมล (Email) ที่คุณสร้างขึ้นมาส่งเข้าไปยังอินบ็อคของผู้ติดตามคือ การสร้างรูปแบบตัวอักษรสำหรับทุกอีเมล (Email) ของคุณ ผู้ให้บริการอีเมลส่วนใหญ่คาดว่า อีเมล (Email) ที่น่าเชื่อถือจะต้องดูดีและมีรูปแบบตัวอักษรของอีเมล (Email) โดยผู้ให้บริการอีเมลมาร์เก็ตติ้งส่วนใหญ่นั้นจะอนุญาตให้คุณสามารถสร้างรูปแบบตัวอักษรของคุณเองได้ภายใต้เครื่องมือแก้ไขอีเมล (Email) และควรมีการเพิ่ม Alternative text ไปยังภาพเนื่องจาก ผู้ให้บริการอีเมลส่วนใหญ่จะตั้งค่าการบล็อคภาพ นั่นหมายความว่าเมื่อมีคนเปิดอ่านอีเมล (Email) รูปภาพจะไม่โหลดหากไม่มีการดาวน์โหลดรูปหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า การเพิ่ม Alternative text ไปยังภาพจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อความที่ถูกส่งไปได้แม้จะไม่เห็นภาพก็ตาม
2. ตั้งค่าข้อความตัวอย่าง
ผู้ให้บริการอีเมลอย่าง Gmail Outlook และแอพพลิเคชั่นอีเมลของ iPhone จะแสดงข้อความใน 2-3 บรรทัดแรกของเนื้อหาอีเมลควบคู่ไปกับชื่อเรื่อง ด้วยเหตุนี้ ข้อความ 2-3 บรรทัดแรกจึงกลายเป็นปัจจัยในการตัดสินใจว่า ผู้รับจะเปิดอ่านอีเมลหรือจะมองข้ามอีเมลนั้นไป
3. ตั้งค่าทั้งความยาวและความกว้างของรูปภาพ
การตั้งค่าความยาวและความกว้างของรูปภาพจะช่วยให้มั่นใจว่า การออกแบบอีเมลของคุณยังคงมีรูปแบบโครงสร้างถึงแม้ว่ารูปภาพอาจถูกบล็อคโดยผู้ให้บริการอีเมลก็ตาม จากนั้นก็ต้องกำหนดขนาดสำหรับ Alternative text ในผู้ให้บริการอีเมลซึ่งมีการตั้งค่าบล็อครูปภาพไว้ โดยผู้ให้บริการอีเมลมาร์เก็ตติ้งส่วนใหญ่จะอนุญาตให้สามารถปรับขนาดรูปภาพได้ การปรับขนาดรูปภาพให้ได้ตามขนาดที่ถูกกำหนดไว้ ควรเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะส่งอีเมลออกไป
4. เพิ่มการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์จากอีเมล
ผู้ให้บริการอีเมลบางรายไม่ได้รองรับไฟล์ที่เป็น HTML ดังนั้น จึงมีความสำคัญในการเพิ่มลิงค์ไปยังเว็บไซต์สำหรับอีเมลของคุณ จึงควรมีการตรวจสอบสิ่งที่ผู้ให้บริการอีเมลแต่ละรายรองรับซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกัน รวมไปถึงองค์ประกอบของลิงค์ องค์ประกอบของรูปแบบ ตัวอักษร และอื่นๆ
5. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ลิงค์มีเส้นทางการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์แบบ
เนื่องจากหลายคนสามารถเข้าถึงอีเมลได้ในช่องทางที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงมีความเป็นจำเป็นที่ลิงค์ของคุณจะต้องมีเส้นทางการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์ ถ้าผู้รับอยู่นอกเครือข่ายของบริษัท ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง (ลิงค์ที่ไม่มีที่อยู่เว็บไซต์แบบสมบูรณ์) จะถูกจำกัดการเข้าถึงและทำให้ไม่สามารถอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในได้
6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า URLs ของรูปภาพมีเส้นทางการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์
ในทำนองเดียวกัน ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า รูปภาพมีการเชื่อมต่อ URLs อย่างสมบูรณ์แล้ว มิฉะนั้น ผู้ติดตามจะไม่สามารถเห็นภาพในอีเมลได้หากมีเข้าถึงจากลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
7. ชมตัวอย่างและทดสอบอีเมลก่อนส่งจริง
ถึงแม้คุณจะคิดว่า คุณสามารถสร้างอีเมลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ให้บริการอีเมลแต่ละรายได้ แต่จะดีเสมอหากมีการชมตัวอย่างและทดสอบการส่งอีเมลก่อนส่งจริง การส่งอีเมลทดสอบไปยังผู้ให้บริการอีเมลที่ต่างกัน จะช่วยทำให้เราแน่ใจได้ว่า อีเมลนั้นทำงานได้อย่างเหมาะสมจริงหรือไม่
