การตลาดในยุคนี้สมัยนี้ Email Marketing เป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกตีตราว่าล้าสมัย แต่พอมาถึงช่วงสิ้นปี นักการตลาดหลายๆ คน เริ่มกลับมาศึกษาแนวโน้มความเป็นไปได้ของ Email Marketing กันใหม่ในทุกๆ ปี เพราะว่า Email Marketing ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่ทำเงินให้กับแบรนด์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นักการตลาดจึงพลาดไม่ได้ที่จะพูดถึง Email Marketing
การทำให้ Email Marketing ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยกลยุทธ์ทางการตลาดที่โฟกัสไปที่พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก คือต้องรู้จักลูกค้าให้มากที่สุด รู้ว่าลูกค้ากำลังสนใจอะไร มองหาอะไร และชื่นชอบสิ่งไหน หากแบรนด์ใดจับทางจุดนี้ได้ ก็ถือว่าได้เปรียบเอามากๆ
1. Personalization ที่มากกว่าแค่การระบุชื่อ
ในทุกวันนี้กล่องอีเมลขาเข้าของทุกๆ คน เต็มไปด้วยอีเมลสแปมและแจ้งข่าวสารต่างๆ ทั้งที่เราไปติดตามไว้ด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นหากนักการตลาดต้องการให้อีเมลของแบรนด์ได้รับความสนใจ และถูกเปิดอ่าน
ทางออกก็คือต้องสร้างความแตกต่างให้กับอีเมลของคุณเพื่อเป็นจุดสนใจของลูกค้าท่ามกลางอีเมลจำนวนมหาศาลที่ลูกค้าได้รับในแต่ละวัน โชคยังดีที่ตอนนี้ดูเหมือนว่านักการตลาดหลายๆ ท่านจะไม่เขียนคำขึ้นต้นอีเมลด้วยคำว่า “ถึงคุณลูกค้าที่เคารพ” กันแล้ว แต่ถึงกระนั้น การทำการตลาดทางอีเมลก็ยังต้องการ personalization ที่มากกว่าแค่การระบุชื่อลูกค้าคนนั้นๆ
เหตุผลที่ว่าทำไมการทำ personalization ถึงมีความสำคัญกับการทำการตลาดทางอีเมลในปี 2022
- 93% ของนักการตลาดที่เจาะจงการทำธุรกิจแบบ B2B วิเคราะห์แล้วว่าการทำ personalized emails เป็นปัจจัยหลักที่ส่งเสริมให้รายรับของแบรนด์เติบโตได้อย่างดี
- 66% ของผู้บริโภคคาดหวังให้แบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบรู้ถึงความต้องการของพวกเขา
- 72% ของผู้บริโภคเลือกที่จะให้ความสนใจกับอีเมลที่มีการระบุชัดเจนว่าถูกส่งให้พวกเขาเป็นพิเศษ
2. Artificial Intelligence, Chatbots and Automation
“AI” เป็นคีย์เวิร์ดที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในแวดวงธุรกิจ นั่นเป็นผลมากจากประสิทธิภาพในการจัดการ Data Base ของ AI นั่นเอง AI จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้ถูกต้อง ครบถ้วนมากขึ้น ติดตามเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภค และสามารถช่วยคาดเดาพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าในอนาคต
ไม่หมดเพียงแค่นั้น AI ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าเพื่อการทำ Email Marketing AI สามารถช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามข้อมูลเชิงกายภาพและพฤติกรรมสำหรับทดสอบประสิทธิภาพของ Email Campaign ต่างๆ และยังช่วยในการสร้าง Chatbot ที่ใช้ตอบลูกค้าแบบอัตโนมัติ มีส่วนช่วยเสริมเนื้อหาที่ถูกเขียนในอีเมลทำให้สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
3. ใส่ User-Generated Content ในอีเมล
สิ่งที่เหนือกว่าคอนเท้นต์จากทางแบรนด์เองนั่นก็คือคอนเท้นท์ที่ถูกเขียนโดยผู้บริโภคด้วยกันเอง และแน่นอนว่ามันไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยสักบาท แถมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและบริการของคุณ
ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะถึงดึงดูดและเชื่อในสิ่งที่ผู้บริโภคด้วยกันเองบอกกล่าว สามารถแนบไปในอีเมลของคุณได้ทั้งแบบข้อความ รูปภาพ วีดีโอ ไฟล์ Gif หรือแม้กระทั่ง Podcast วิธีนี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยเรียกลูกค้าของคุณไปติดตามช่องทาง social media อื่นๆ ของแบรนด์ได้อีกด้วย
4. Interactive Emails
ที่ผ่านมาผู้บริโภคได้รับแต่อีเมลที่น่าเบื่อหน่ายและเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ด้วยการเพิ่มขึ้นของคู่แข่งในตลาด ทำให้ Interactive Email ได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 2564 และจะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2565
Interactive Email ช่วยให้อัตรา Click-through Rate เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ทั้งยังช่วยส่งเสริม Customers Generated Content ได้เป็นอย่างดี และกระตุ้นการตอบสนองจากลูกค้าด้วย คอนเท้นท์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น…
- แบบสำรวจความคิดเห็น ผลโหวต หรือแบบทดสอบ เพื่อเก็บข้อมูลจากกลุ่มลูกค้า
- สไลด์โชว์ และ Carousels สำหรับนำเสนอสินค้า
- Rollover Images เพื่มเพิ่มประสบการณ์ชอปปิงที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า
- ภาพแอนนิเมทเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าคลิกเข้าดูเนื้อหาเพิ่มเติมใน landing page
5. เขียนให้ Minimal
ในขณะที่วงการการตลาดเต็มไปด้วยโปรโมชันและแรงจูงใจมากมาย แต่ลูกค้ากับมีความสนใจต่อคอนเท้นต์ต่างๆ น้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นเราควรสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่ชัดเจน และถูกสื่อออกไปในทุกช่องทางการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ วีดีโอ Social Media และอีเมล ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่าย
รูปแบบของอีเมลที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอินเทอร์เน็ตคงหนีไม่พ้น Minimal Style ผู้บริโภคชื่นชอบความสะอาดตา กระชับ และผ่านการเรียบเรียงเป็นอย่างดีเพื่อให้อ่านง่าย
อีเมลอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคืออีเมลที่ประกอบไปด้วยตัวอักษรล้วนๆ ไม่มีภาพประกอบหรือสื่ออื่นๆ สอดแทรกระหว่างใจความของหน้าอีเมล การเขียนอเมลในรูปแบบนี้จะเป็นการช่วยลดสิ่งล่อใจที่จะทำให้ลูกค้าพลาดใจความสำคัญต่างๆ ที่ระบุในหน้าอีเมล
การทำอีเมลให้ Minimal อาจดูขัดแย้งกับ Interactive Email แต่แนะนำว่าแบรนด์ควรปรับใช้อีเมลทั้งสอง 2 รูปแบบควบคุ่กันไป ขึ้นอบู่กับความเหมาะสมของคอนเท้นท์ที่จะนำเสนอแก่กลุ่มลูกค้า
6. รองรับการเข้าถึงจากบนมือถือ
54.8% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ใช้งานผ่านหน้าจอ Smartphone ยิ่งไปกว่านั้นกว่า 70% ใช้มันไปการค้นหาสินค้าและบริการที่พวกเขาให้ความสนใจ การทำการตลาดผ่านอีเมลย่อมต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ กลุ่มลูกค้าที่คุ้นเคยกับการใช้งานและอ่านอีเมลที่ถูกดีไซน์สำหรับหน้าจอมือถือก็คงไม่ประทับใจที่จะอ่านอีเมลที่สนับสนุนการใช้งานเป็นหน้าจอ Windows เท่านั้น ในเมื่อมีอีเมลฉบับอื่นๆ อีกมากที่มาในรูปแบบ Mobile-friendly
อีกสิ่งหนึ่งที่แบรนด์ต้องให้ความสนใจคือเรื่องข้อความในหน้าอีเมล เนื่องจากผู้ใช้งานมือถือกว่า 80% มีการเปิดใช้ Dark Mode ดังนั้นดีไซน์ของอีเมลควรที่อ่านง่าย มองเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าลูกค้าจะเปิดใช้งาน Dark Mode หรือไม่ก็ตาม
7. ให้ความสำคัญกับ Privacy
นโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงหลักครั้งใหญ่ในการทำ Email Marketing นักการตลาดจำเป็นที่จะต้องการกุลยุทธ์ทางการตลาดไปพร้อมๆ รักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และได้รับการอนุญาตจากทางลูกค้าก่อนเสมอ แบรนด์ต้องแสดงความจริงใจต่อลูกค้า และสามารถเปิดเผย ให้ตรวจสอบถึงที่มาของข้อมูลต่างๆ ได้อย่างโปร่งใส ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นในใจลูกค้าและนำมาซึ่งผลลัพธ์อันน่าทึ่งที่ทางแบรนด์เองก็อาจคาดไม่ถึงได้เช่นกัน
ข้อสรุปแนวโน้ม Email Marketing ในปีนี้
แนวโน้ม Email Marketing ในปี 2022 จะเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ในการชอปปิงตามความสนใจของลูกค้า สื่อที่หลากหลายรูปแบบถูกนำมาใช้เพื่อสื่อสารถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์และคอยสนับสนุนแบรนด์มาอย่างเหนียวแน่น ในขณะเดียวกันยังมีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเสริมทัพเช่น การใช้ AI และแชทบอทเพื่อเสริมกลยุทธ์การเรียกลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์และการสนับสนุนลูกค้าในการซื้อขาย[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]